โรงเรือนบังแดด

1. การควบคุมแสง: โรงเรือนบังแดดช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆ เช่น การเจริญเติบโตที่หยุดชะงัก ใบไหม้ หรือเหี่ยวเฉาอันเกิดจากการได้รับแสงมากเกินไป โดยปรับความเข้มของแสง การให้แสงที่เหมาะสมจะส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชอย่างมีสุขภาพดีและเพิ่มผลผลิต

2. การควบคุมอุณหภูมิ: วัสดุบังแดดสามารถลดอุณหภูมิภายในเรือนกระจกได้ ทำให้พืชได้รับความร้อนน้อยลง โดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อน ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพืชที่ไวต่ออุณหภูมิ

3. การจัดการศัตรูพืชและโรค: การควบคุมแสงช่วยให้โรงเรือนบังแดดลดการแพร่พันธุ์และการแพร่กระจายของศัตรูพืชบางชนิดได้ ช่วยลดความเสี่ยงในการระบาดของศัตรูพืช ส่งผลให้ลดการใช้ยาฆ่าแมลงและเพิ่มความยั่งยืนทางการเกษตร

4. การปลูกพืชหลากหลาย: โรงเรือนบังแดดสามารถสร้างสภาพแวดล้อมในการเจริญเติบโตที่หลากหลายซึ่งเหมาะกับพืชต่าง ๆ เกษตรกรสามารถปรับพันธุ์พืชได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการของตลาด ซึ่งช่วยเพิ่มผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ

5. วงจรการเจริญเติบโตที่ขยายออก: การใช้โรงเรือนบังแดดช่วยให้สามารถปลูกพืชเฉพาะชนิดในแต่ละฤดูกาลได้ ช่วยขยายวงจรการเจริญเติบโตและเปิดโอกาสให้ผลิตได้หลายฤดูกาล ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร

6. การจัดการความชื้น: โรงเรือนบังแดดสามารถช่วยลดการระเหย ช่วยรักษาความชื้นในดิน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการจัดการความชื้น โดยเฉพาะในพื้นที่แห้งแล้ง

7. ปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์: สภาพแสงและอุณหภูมิที่เหมาะสมสามารถปรับปรุงคุณภาพของพืชผล เช่น ปริมาณน้ำตาล สีและรสชาติของผลไม้